บาสเกตบอล
00:44
บาสเกตบอล

บาสเกตบอล (basketball) เป็นกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ทีม แต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่น 5 คนพยายามทำคะแนนโดยการโยนลูกเข้าห่วงหรือตะกร้า (basket) ภายใต้กติกาการเล่นมาตรฐาน
ตั้งแต่ที่คิดค้นขึ้นในปี พ.ศ. 2434 (ค.ศ. 1891) โดย เจมส์ เนสมิท บาสเกตบอลได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นกีฬาสากลโลก กีฬานี้มีจุดเริ่มต้นจากในวายเอ็มซีเอ ลีกที่เกิดขึ้นในสมัยแรก ๆ เป็นระดับมหาวิทยาลัย ต่อมากลายเป็นกีฬาอาชีพ มีการจัดตั้งลีกเอ็นบีเอ (National Basketball Association, NBA) และเริ่มมีการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก เมื่อ พ.ศ. 2479 (ค.ศ. 1936) ถึงแม้ว่าในระยะแรกยังเป็นกีฬาที่เล่นเฉพาะในสหรัฐอเมริกา กีฬาชนิดนี้แพร่ขยายไปสู่ระดับสากลด้วยความรวดเร็ว ปัจจุบันมีนักกีฬาและทีมที่มีชื่อเสียงตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก
บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่เล่นในร่มเป็นหลัก สนามที่ใช้เล่นมีขนาดค่อนข้างเล็ก คะแนนจะได้จากการโยนลูกเข้าห่วงจากด้านบน (ชู้ต, shoot) ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในตอนจบเกมจะเป็นฝ่ายชนะ สามารถนำพาลูกโดยการกระเด้งกับพื้น (เลี้ยงลูก, dribble) หรือส่งลูกกันระหว่างเพื่อนร่วมทีม เกมจะห้ามการกระทบกระแทกที่ทำให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ (ฟาวล์, foul) และมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการครองบอล
เกมบาสเกตบอลมีการพัฒนาเทคนิคการเล่นต่าง ๆ เช่น การชู้ต การส่ง และ การเลี้ยงลูก รวมไปถึงตำแหน่งผู้เล่น (ซึ่งตามกฎแล้วไม่จำเป็นต้องมี) และตำแหน่งการยืนในเกมรุกและเกมรับ ผู้เล่นที่ตัวสูงถือเป็นข้อได้เปรียบ ถึงแม้ว่าในการเล่นแข่งขันจะควบคุมโดยกฎกติกา การเล่นรูปแบบอื่น ๆ สำหรับเล่นผ่อนคลายก็มีการคิดขึ้น บาสเกตบอลยังเป็นกีฬาที่คนนิยมดูอีกด้วย
ประวัติ
บาสเกตบอล ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองสปริงฟิล รัฐแมสซาชูเซส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1891 (พ.ศ. 2434) โดย ดร.เจมส์ ไนสมิธ อาจารย์พละศึกษาของโรงเรียนคนงานคริสเตียน (ปัจจุบันเป็นวิทยาลัยสปริงฟีล) ต้องการให้มีการแข่งขันกีฬาในร่มช่วงฤดูหนาว
กติกา
1. สามารถโยนลูกบอลไปที่อื่นด้วยมือทั้ง 2 ข้างหรือมือเดียว
2. สามารถตีลูกบอลได้ทั้งมือเดียวหรือ 2 มือ แต่ห้ามใช้กำปั้นทุบบอล
3. ห้ามถือลูกบอลวิ่ง
4. ต้องถือลูกบอลด้วยมือ แขน หรือลำตัว แต่ห้ามดึงลูกบอล
5. ห้ามดัน ผลัก ฝ่ายตรงข้าม
6. การกระทำตามข้อ 3-5 ถือว่าเป็นการฟาล์ว
7. หากผู้เล่นทีมเดียวฟาล์วติดต่อกัน 3 ครั้ง ให้นับคะแนนแก่ฝ่ายตรงข้าม
8. นับคะแนนเมื่อลูกบอลเข้าห่วงไปแล้ว หรือยังค้างที่ก้านห่วง แต่ผู้เล่นฝ่ายป้องกันไปสัมผัสหรือกระทบประตู ก็นับคะแนนให้เช่นกัน
9. หากลูกบอลออกนอกสนามให้ส่งบอลเข้ามาเล่นในจุดที่บอลออก
10. กรรมการผู้ร่วมตัดสิน (Umpire) มีหน้าที่คอยจดบันทึกการฟาวล์ และคอยช่วยผู้ตัดสินในด้านสถิติต่าง ๆ ทำให้ตัดสินได้ถูกต้องมากขึ้น
11. ผู้ตัดสิน (referee) มีหน้าที่ตัดสินในสนามในจังหวะต่าง ๆ, จับเวลา, ให้คะแนนเมื่อเกิดการทำแต้ม, บันทึกคะแนน ฯลฯ
12. การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 5 คะแนน โดยมีเวลาพักครึ่ง 5 นาที
13. เมื่อจบการแข่งขัน ฝ่ายใดทำแต้มได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าเสมอกัน ก็ต้องเล่นต่อจนกว่าจะมีฝ่ายใดทำแต้มได้
สนามที่ใช้

สนามจะเป็นรูปสี่เหลี่มผืนผ้าและมีความกว้าง 15 เมตร มีความยาว 28 เมตร
การนับคะแนน
หลักการเล่นที่สำคัญที่สุดของกีฬาบาสเกตบอล นั่นคือ การทำแต้มด้วยการโยนลูกบอลเข้าห่วงของคู่แข่งให้มากกว่า และพยายามป้องกันไม่ให้คู่แข่งโยนลูกบอลเข้าห่วงของตัวเอง โดยที่การโยนลูกบอลเข้าห่วงในพื้นที่นอกเขตโทษ จะได้ 3 คะแนน, ในเขตโทษได้ 2 คะแนน และจุดโทษได้ 1 คะแนน